วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

Gnomeo and Juliet ไม่น่าเลย

Gnomeo and Juliet

คุ้ม / ไม่คุ้ม ?


สำหรับบทความนี้ขอเอ่ยถึงภาพยนต์ที่กำลังฉายอยู่ในบ้านเรากันบ้างครับกับอะนิเมชั่น 3D เรื่อง โนมิโอ แอนด์จูเรียต (Gnomeo and Juliet) เรื่องราวความรักที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดีของเชร็คเสปียร์นั้นเองลองไปชมตัวอย่างกันก่อนดีกว่าครับ





อะนิเมชั่น 3D จากค่ายดิสนี่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆครับ  เพราะปกติผมจะไม่ค่อยรู้สึกแย่กับหนังที่ไปดูเท่าไรครับ เพราะส่วนใหญ่หนังที่ไปดูจะเป็นหนังที่ผมกรองแล้วว่าน่าดู หรืออยากดูจริงๆ ก็เลยถ้าให้คะแนนหนังที่ไปดูมาก็ผ่านเกือบทุกเรื่องครับ สำหรับเรื่องนี้ยกเว้นครับ 




Gnomeo and Julietเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากนวนิยาย โดยในเรื่องถูกนำมาทำลงในตุ๊กตาปูนปั้นหรือคนอังกฤษเรียกว่า "โนม" นั่นเอง โดยตัวเอกของเรื่องอยู่บ้านคนละสี "ฟ้า" กับ "แดง" ซึ่งตุ๊กตาปูนของทั้งสองบ้านก็จะแยกสีบนหมวกและชุดอย่างชัดเจน และทั้งสองสี สองตระกูลนี้ก็เป็นศัตรูกันมาเนิ่นนาน



เนื้อเรื่องหลักก็เป็นความรักของตัวโนมต่างสีครับ ซึ่งในต่างประเทศนักวิจารณ์บางคนกล่าวว่า เนื้อเรื่องแค่หากินกับนิยายดังๆ และเลียนแบบ Toy Story แค่เปลี่ยนมาเป็นหุ่นปูนปั้นประดับสวน ซึ่งความเห็นนี้ผมเห็นด้วยหลังจากที่ไปชมภาพยนต์เรื่องนี้มาเลยครับ ส่วนเนื้่อเรื่องอื่นๆ ก็มีฉากที่เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่มาก ความน่ารักของตัวละครก็มีบ้าง แต่ไม่มีอะไรที่ทำให้ประทับใจ หรือดึงอารมณ์คนดูให้ถึงที่สุดเลยครับ เหมือนขาดอะไรไปหลายๆอย่าง ตัวโกงของเรื่องก็ถูกตัดบทให้หายไปง่ายซะเหลือเกิน ขาดสีสันของความเป็นอะนิเมชั่นไปหลายอย่างจริงๆครับ ขนาดผมไปดูวันที่ตั๋วลดราคายังเสียดายเงินเลย ความยาวของหนังประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาทีเท่านั้นครับ ส่วนรายได้ในต่างประเทศนับว่าดีทีเดียวนะครับ  น่าจะเป็นผลมาจากการดัดแปลงมาจากนวนิยายดัง และค่ายดิสนี่สร้างอะนิเมชั่นออกมาได้ดีในเรื่องก่อนๆครับ



ฉากที่ประทับใจ

ไหนๆก็วิจารณ์ไม่ดีไปซะเยอะ งั้นมาดูฉากที่ผมชอบบ้างดีกว่าครับ สำหรับผมแล้วชอบฉากที่ "โนมิโอ" ปลอมตัวเป็นโจรหรือนินจา เพื่อที่จะลอบเข้าไปในสวนของโนมสีแดง พอดีกับที่จูเรียตปลอมตัวเป็นนินจาโดยเอาถุงเท้าสีดำมาสวมเป็นชุด ทำให้คลายบรรยากาศจากหุ่นปั้นธรรมด๊าดา กลายเป็นหนังนินจา ออกแนวแอคขั่นนิดๆ ยังไงยังงั้น ทำให้ตัวละครดูมีสเน่ขึ้นมาอีกนิดนึงด้วยครับ เท่ดี เอหรือว่าผมชอบแนวนี้หว่า ฮ่าๆ 
 


เอ๊ะ !! หลายคนคงสงสัยว่าผมมาวิจารณ์หนังเรื่องนี้ทำไม ไม่ต้องแปลกใจไปเลยครับ เพราะนึกเรื่องที่จะเขียนไม่ออกนั่นเอง ช่วงนี้เลยขอวิจารณ์หนังหน่อยละกันนะครับ ^^"


เกรดหนัง B-
คะแนนรวม เอาไปเลย 2/5
by free2freelife.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น