วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เผย ตัวละคร X-Men First Class สุดอลังการ (X-Men V.1)

  เผยตัวละคร



ปฐมบทของภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ อย่าง X-Men ที่กำลังเข้าฉายในเดือน มิถุนายน 2011 นี้ เรื่องราวย้อนกลับไปในยุค 1960 ตั้งแต่สมัย โปรเฟสเซอร์เอกซ์หรืออีกชื่อชาร์ลส์ เซเวียร์ และ อีริค เลห์นเชอร์ หรือ แม็กนีโต เป็นเพื่อนรักกัน ในโลกที่ยังไม่มีใครรู้จักเหล่ามิวแทนต์ (มนุษย์กลายพันธุ์) ซึ่งต้องอยู่กันอย่างหลบๆซ่อนๆ จนกระทั่ง เซบาร์สเตียน ชอว์โผล่ขึ้นมาซึ่งคิดว่าจะครองโลกได้ ชาร์ลและอีริค จึงต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกไม่ให้เข้าสู้สงครามโลกครั้งที่ 3

ในภาค Comic ของ Marvel นั้น X-Men ได้ถูกสร้างให้มีเหล่าฮีโร่นับสิบๆตัว ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความสามารถพิเศษและภูมิหลังที่แตกต่างกันไปทำให้เป็นจุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้ แต่ในหนังไตรภาคที่เราได้เห็นกันนั้น จะเห็นแค่ วูฟเวอลินเป็นตัวหลักเท่านั้น ในปฐมบทใหม่ครั้งนี้ภาพยนต์ได้ถูกสร้างให้กลับเข้าสู่ความเป็นคอมมิคอีกครั้ง โดยเน้นตัวละครที่หลากหลายมากขึ้นนั่นเองครับ

รายชื่อตัวละคร ชาร์ลส์ เซเวียร์ (เจมส์ แม็คอะวอย), แม็กนีโต (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์), เอ็มม่า ฟรอสต์ (แจนยูอารี่ โจนส์), ดร. มอยร่า แม็คแท็กเคิร์ท (โรส ไบร์น), เรเวน ดาร์โฮล์มส์ หรือ มิสทีก (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนจ์), บีส (นิโคลัส โฮลท์), อาซาเซล (เจสัน เฟลมมิ่ง), ฮาวอค (ลูคัส ทิล), แองเจิล (โซอี้ เครวิตซ์)


* หมายเหตุ ความสามารถของตัวละคร อ้างอิงมาจาก Marvel ฉบับ Comic นะครับ ซึ่งในภาพยนต์นั้นถูกนำมาดัดแปลงอีกที ทำให้เรื่องย่อของแต่ละตัวละคร อาจไม่ตรงกับภาพยนต์ แต่เพื่อเป็นความรู้และเพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนต์ครับ


1.ชาร์ลส์ เซเวียร์(Professor X.) รับบทโดย เจมส์ แม็คอะวอย

พลัง/อาวุธ
เทเลพาที   ร่างจิต
ประวัติโดยสังเขป
     ชายผู้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ความหวังที่ยิ่งใหญ่ ความหวังที่วันหนึ่งมนุษย์ และมิวแทนต์จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ปราศจากความเกลียดชัง  ความฝันที่คุ้มที่จะทุ่มเท ความฝันที่ยังไม่ได้เติมเต็ม
เขาเป็นบุตรของนักวิจัยนิวเคลียร์ Brian Xavier และภรรยา Sharon พลังจิตของเขาเริ่มปรากฏขึ้นหลังจากการเสียชีวิตในอุบัติเหตุของบิดาของเขา หลังจากนั้นไม่นานแม่ของเขาได้สมรสใหม่กับเพื่อนร่วมงานของบิดาเขา Dr. Kurt Marko ทำให้เขาได้พบกับ Cain Marko ที่ต้องกลายมาเป็นพี่น้องต่างสายเลือด และศัตรูคู่อาฆาตในเวลาต่อมา (Cain กลายเป็น Juggernaut ) ในวัยเด็กเคนมีนิสัยเกเรเขาชอบรังแกชาร์ลอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งที่เคิร์ทลงโทษเคนปรากฏว่าพลังจิตของชาร์ลประสานกับจิตของเคนโดยบังเอิญ ทำให้ทุกการทำโทษที่เคนโดน ความเจ็บปวดจะเกิดขึ้นกับชาร์ลด้วย ด้วยความเฉลียวฉลาดเขาจบวิทยาลัยด้วยอายุเพียง 18 ปี และมุ่งสู่ระดับปริญญาที่ Oxford University เป็นที่ที่ทำให้เขาได้พบกับ Moira McTaggert  ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน และตกลงหมั้นหมาย(เนื้อหาอยู่ในประวัติของมอยร่า) เขาเข้าร่วมกองทัพและรับราชการทหาร หลังจากถูกมอยร่าถอนหมั้น ชาร์ลลาออกจากการเป็นทหาร และออกท่องเที่ยวทั่วโลก เขาเดินทางไปยังไคโร ที่ที่เขาได้ประจันหน้ากับThe Shadow King อาชญากรมิวแทนต์ชาร์ลเอาชนะชาโดว์คิงได้ การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้ตัวเขาตั้งปณิทานว่า จะปกป้องมนุษยชาติจากมิวแทนต์ที่ใช้พลังทางที่ผิด และใช้พลังนั้นเป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์ หลังจากไคโร ชาร์ลมุ่งหน้าไปยังอิสราเอล ที่ที่เขาได้พบกับชายชื่อ Erik Magnus ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันและหลังจากรอดจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ทั้งคู่ต่างรู้ว่าพวกเขาต่างเป็นมิวแทนต์ ทั้งคู่แบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวคิด และทัศนะคติเรื่องมิวแทนตื ชาร์ลพบว่าแม็กนัสมีความคิดที่ตรงข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงระหว่างการเดินทางกลับมายังอเมริกา เขาประสบอุบัติเหตทำให้ต้องพิการไม่สามารถเดินได้ แต่เขาก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ เขากลับมายังนิวยอร์ค อาศัยอยู่แมนชั่นของตระกูลต่อมาไม่นานเขาได้มีโอกาสรับเด็กผู้หญิงผู้มีพลังจิตมาอยู่ในการดูแล เด็กผู้หญิงที่ชื่อ Jean Grey  และด้วยความช่วยเหลือจากมอยร่าอดีตคู่หมั้น ซาเวียร์ได้เปิดสถาบันการศึกษาสำหรับเด็กผู้มีพลังพิเศษได้สำเร็จและเขาได้ใช้ความรุ้ต่างๆ และความช่วยเหลือของมอยร่า พัฒนาสถาบันในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ยานพาหนะ ฯลฯ เพื่อที่จะได้เติมเต็มความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้






2. อีริค แม็กนัส เลห์นเชอร์ หรือ แม็กนีโต รับบทโดย (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์)

พลัง/อาวุธ
ควบคุมสนามแม่เหล็ก และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ประวัติโดยสังเขป
ผู้เหลือรอดเพียงคนเดียวในครอบครัว หลังจากการถูกจับกุมเข้าสู่ค่ายกักกันของนาซี เขาถูกทรมานมาอย่างโหดเหี้ยม สิ่งนี้ปลูกฝังความเกลียดชังมนุษย์ไว้ในตัวของเขา  และทำให้เขาเชื่อว่ามิวแทนต์คือสิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ มิวแทนต์คือเผ่าพันธุ์ที่สูงส่งกว่า เขาค้นพบพลังของตัวเองขณะอยู่ภายในค่ายกักกัน หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง เขาถูกปล่อยตัว และได้สมรสกับ magda ทั้งคู่ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรกชื่อ Anya แต่เธอก็ได้เสียชีวิตภายในกองเพลิง ต่อหน้าต่อตาของแมกเนโตที่ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าไปช่วยเธอโดยกลุ่มคนที่เกลียดชังมิวแทนต์  เขาจึงใช้พลังของเขาสังหารกลุ่มคนเหล่านั้นจนหมด magda เห็นสามีของเธอจมอยู่ในความเกลียดชัง เธอจึงไม่ได้บอกความจริงที่ว่าขณะนั้นเธอกำลังตั้งท้อง เธอจากแมกเนโตมา และให้กำเนิดลูกแฝด (quicksilver และ scarlet witch) และมอบเด็กทั้งสองให้แก่คาราวานยิปซี Magda เก็บความลับเรื่องลูกจนกระทั่งเธอเสียชีวิต  แมกเนโตกลายเป็นชายผู้สูญเสียทุกอย่าง ทั้งลูกและภรรยา เขาหนีจากทุกสิ่งไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่อิสราเอล ที่นั้นทำให้เขาได้พบชายหนุ่มผู้มีพลังจิต Charl Xavierทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ทั้งคู่มิได้เปิดเผยพลังของตนให้อีกคนฟังจนกระทั่ง เกิดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ทำให้ทั้งคู่ต้องใช้พลังออกมา ทั้งคู่เลยเปิดใจคุยกัน แต่ความคิดเรื่องมนุษย์และมิวแทนต์ของทั้งคู่แตกต่างกันซาเวียร์อยากให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกัน แต่แมกนีโตต้องการให้มิวแทนต์ป็นผู้ปกครอง ความทรงจำเรื่องความโหดร้ายของมนุษย์ในวัยเด็กยังตามหลอกหลอนเขา เขาไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ซึ่งการที่จะป้องกันปัญหาจากมนุษย์ ก็คือการจัดการกับมนุษย์ก่อนที่จะสร้างปัญหานั้นเอง เมื่อความเห็นและทางที่เลือกเดินแตกต่างกัน ทั้งคู่กลับมาจากอิสราเอล ซาเวียร์เริ่มก็ตั้งสถาบันที่จะสอนให้มิวแทนต์ใช้พลังในทางที่ถูกต้อง และวิธีการอยู่ร่วมในสังคม แต่แมกเนโตเลือกที่จะต่อต้านสังคมมนุษย์ เขารวบรวมมิวแทนต์ที่มีแนวคิดเช่นเดียวกับเขาก่อตั้งกลุ่มก่อการร้าย Brother Hood of Evil Mutant และกลายเป็นปฏิปักษ์กับมนุษยชาติตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



3.ฌอน แคสซิดี้ หรือ แบนชี 



 **ข้อมูลตัวนี้อาจจะไม่ค่อยตรงกับหนังนะครับ
พลัง/อาวุธ
บินได้ สามารถสร้างคลื่นเสียงซุปเปอร์โซนิค
ประวัติโดยสังเขป
ชอว์นเก็บความลับที่เขาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์มาตลอด เขาเติบโตมาในตระกูลผู้ดี เขาเป็นผู้ครองปราสาทในไอร์แลนด์ จบการศึกษาจากวิทยาลัย Trinityในดับลิน ปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์
เขาสมัครเข้าเป็น Interpol เขาสมรสกับภรรยาของเขา ซึ่งเขาเอาชนะใจเธอจากการแข่งขันกับลูกพี่ลูกน้องของเขา Tom Cassidy ชอว์นได้เลื่อนเป็นนักสืบ ระหว่างที่ถูกมอบหมายให้ไปทำภารกิจ
ภรรยาและลูกในครรภ์เขาเดินทางกลับไปยังไอร์แลนด์ และประสบเหตุการลอบวางระเบิด ภรรยาของเขาเสียชีวิต แต่ทอมได้ช่วยชีวิตลูกสาวของเขาออกมาได้ และเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
โดยที่ชอว์นไม่ทราบถึงการที่ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ ชอว์นกลับมาจากภารกิจและทราบเรื่องการเสียชีวิตของภรรยา เค้าเสียใจมากและไม่สามารถทนเห็นสิ่งแวดล้อมที่คอยเตือนเขาถึงภรรยาที่เสียไป
เขาจึงลาออกจาก Interpol และเดินทางมายังนิวยอร์ค แต่ในที่สุดเขาก็ตกสู่ด้านมืด เขาเริ่มก่ออาชญากรรม แต่โปรเฟสเซอร์ ซาเวียร์ช่วยให้เขาได้สติ และดึงเขาเข้ามาร่วมทีมเอ็กเมนส์  และตกหลุมรัก ดร. มอยร่า


คลิปเปิดตัว แบนชีใน เฟิสคลาส




4.อเล็กซ์ ซัมเมอร์ส หรือ ฮาว็อก รับบทโดย ลูคัส ทิล
 ** ประวัติอาจไม่ตรงกับภาพยนต์เนื่องมาจากภาคการ์ตูนนะครับ


เครือญาติ 
Scott Summers (cyclop) พี่ชาย   Gabriel Summers(Vulcan) น้องชาย
พลัง  
สร้างและยิงพลังงานแสงอาทิตย์ได้ สมรรถนะร่างกายระดับมนุษย์ปกติ
ประวัติโดยย่อ
ในขณะที่อเล็กและสกอตต์ยังเป็นเด็ก พวกเขาได้สูญเสียพ่อไม่ไปในเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินตก (ในช่วงนั้นยังไม่ปรากฏเกเบรียล เนื่องจากเป็นตัวละครที่ถูกเขียนเพิ่มภายหลัง)
ทั้งคู่รอดชีวิตจากเครื่องบินตกด้วยร่มชูชีพที่พ่อแม่ของเขาสละให้ เด็กทั้งสองรอดชีวิตแต่ทั้งคู่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส อเล็กซ์สมองกระทบกระเทือบและสูญเสียความทรงจำ ส่วนสกอตต์บาดเจ็บถึงขั้นโคม่า หลังจากสองสัปดาห์ในโรงพยาบาล อเล็กซ์ได้ออกจากโรงพยาบาลและแยกจากพี่ชายของเขามา เขากลายเป็นเด็กกำพร้าเป็นเวลานานหลายปี ก่อนที่เขาจะเข้าเรียนในระดับวิทยาลัย อเล็กซ์เริ่มค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง โปรเฟสเซอร์อาเม็ท อับดอล ซึ่งเป็นมนุษย์กลายพันธ์เช่นเดียวกัน ค้นพบว่าร่างกายของเขามีความเชื่อมโยงทางฟิสิกส์กับพลังของอเล็กซ์ อับดอลรับเลี้ยงดูอเล็กซ์ พาเขาไปยังอียิป และวางแผนที่จะดึงพลังงานจากตัวอเล็กซ์มาเพื่อเพิ่มพลังให้ตนเอง สกอตต์ซึ่งเป็น เอ็กซ์ เมนแล้วในขณะนั้น ทราบข่าวว่าน้องชายของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจึงนำทีมเอ็กเมนไปยังอียิปและช่วยน้องชายของเขาออกมา อเล็กซ์เข้ามาร่วมทีมเอ็ก เมน และเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของตนเอง เค้าได้พบรักกับเพื่อนร่วมทีม Poraris แต่ชีวิตในเอ็กเมนนั้นทำให้เค้ารู้สึกอึดอัด เค้าถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายของเขาอยู่ตลอดเวลา พี่ชายของเขาเป็นผู้นำทีมที่เข้มแข็งในที่สุดอเล็กซ์ก็ตัดสินใจที่ออกไปให้พ้นจากร่มเงาของพี่ชาย เขาจึงไปเข้าร่วมหน่วยรบมนุษย์กลายพันธ์ของรัฐบาลในฐานะหัวหน้าทีม ก่อนที่จะประสบเหตุหลุดไปยังอีกความเป็นจริงหนึ่ง สุดท้ายสกอตต์ก็ช่วยให้น้องชายของเขากลับมาสู่ความเป็นจริงนี้ได้



คลิปเปิดตัว ฮาวอค ใน เฟิสคลาส



5. บีส รับบทโดย นิโคลัส โฮลท์

พลัง/อาวุธ
Strength, Speed, Agility และสัญชาติญาณ เหนือมนุษย์
ประวัติโดยสังเขป
เด็กหนุ่มที่เกิดขึ้นมาในลักษณะของมนุษย์ปกติ เพียงแต่เขามีมือและเท้าที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป เขาไม่เคยรู้สึกตัวว่าเขามีบางสิ่งที่ไม่เหมือนมนุษย์ปกติ เขาคิดว่าเขาเป็นเพียงเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬา
เขาแข็งแกร่งกว่าเด็กคนอื่น เร็วกว่าเด็กคนอื่น ในช่วงมัธยมปลายเขาได้เป็นตัวจริงของทีมอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียน เขาได้รับฉายาจากเพื่อนๆว่า Beast ที่มาจากความแข็งแกร่งของเขาแต่นับวันความแตกต่างของพลังของเขากับเด็กปกติมากขึ้นทุกวัน ในที่สุดเฮนรี่ก็ค้นพบว่าพลังเหล่านั้นมาจากการที่เขาเป็นมนุษย์กลายพันธ์ และเมื่อความจริงได้เปิดเผยออกไปเขาก็ไม่สามารถหลีกหนีความกลัวและความเกลียดชังของคนรอบข้างได้ โรงเรียนเชิญให้เขาออกจากโรงเรียน แต่ Professor Xavier รู้และได้มารับเฮนรี่เพื่อเขาสู่สถาบันของเขาเองเฮนรี่พบที่ๆเหมาะกับเขาเขาสามารถเรียนรู้ทั้งความรู้ และการใช้พลังเขาเป็นหนึ่งในนักเรียนที่มีผลการศึกษาดีเลิศของสถาบัน และเป็นสมาชิกอันดับต้นๆของทีม X men หลังจบการศึกษาเฮนรี่ทำการทดลองสารเคมีบางอย่าง และเขาตัดสินใจทดลองสารนั้นกับตัวเอง ซึ่งการตัดสินใจนั้นเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตเขา เขาพบว่าสารเคมีนั้นช่วยเพิ่มความสามารถของตัวเขาให้สูงขึ้นแต่ผลข้างเคียงของสารเคมีนั้นก็เกิดตามมาร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยขนสีน้ำเงินเข้ม และใบหน้าของเขากลายเป็นใบหน้าคล้ายใบหน้าของสัตว์ เขี้ยวและกรงเล็บ บีสท์พยายามที่จะรักษาการเปลี่ยนแปลงนี้แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจยอมรับ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปเขาได้ร่วมทำงานในห้องทดลองกับ ดร. มอยร่า แม็คแทคเคิค และประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยจากไวรัสกลายพันธ์ Legacy Virus  ต่อมาเขาถูกผู้หญิงที่เขารักที่สุด ทริช ทิลบี้ ทิ้งไปเพียงเพราะเธอเลือกที่จะมองเขาจากภายนอก มากกว่าความดีภายในตัวเขา ทำให้เขาตั้งเป้าหมายที่จะประสานให้มนุษย์และมิวแทนต์อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข



คลิปเปิดตัว บีสท์ ใน เฟิสคลาส



6. มิสทีก รับบทโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนจ์

พลังพิเศษ
ความสามารถในการกลายร่าง เลียนแบบคนที่เธอเคยเห็นได้
ประวัติโดยสังเขป
Shapeshifter เธอกลายเป็นได้ทุกคน แต่รูปร่างที่แปลกประหลาด ผิวสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีเหลืองคล้ายกับสัตว์เลื้อยคลาน เธอไม่สามารถซ่อนมันได้ไว้ตลอดไป วันที่เธอให้กำเนิดบุตรของเธอ Kurt Wagner หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Nightcrawler (งงมั้ยละ  ในหนังเขียนบทเป็นศัตรูรุ่นเดียวกัน) บุตรของเธอแปลกประหลาดไม่เหมือนมนุษย์และการเกิดของเขาทำให้การปิดบังตัวเองของเธอถูกเปิดเผยขึ้น เธอถูกเกลียดชังจากเพื่อนร่วมเมือง และถูกไล่ล่าเพราะหาว่าเธอและลูกเป็นปีศาจ เธอทำการตัดสินใจที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายแรงที่สุด เธอต้องการปิดบังตัวตนของตัวเองไว้ เธอจึงตัดสินใจโยนบุตรทารกของเธอลงไปในน้ำตก แต่โชคดียังเข้าข้างเด็ก คาราวานยิปซีช่วยชีวิตเคิร์ทไว้ได้ และเก็บเขาไปเลี้ยง ด้านเรเว่นเธอใช้ชีวิตท่ามกลางมนุษย์ปกติ และต้องซ่อนตัวตนไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถซ่อนมันได้ เธอจึงเกิดตวามคิดที่ว่า ในเมื่อเธอมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ ทำไมเธอต้องหลบซ่อน มิวแทนต์ต้องเป็นผู้ปกครอง และผู้อ่อนแอกว่าต้องถูกกำจัดไป ธอจึงเข้าร่วม Brotherhood Of Evil Mutants กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เกิดจากการรวมตัวของมนุษย์กลายพันธ์ที่เกลียดชังมนุษย์ เธอได้รับ Rogue มาเลี้ยงดูและใช้เธอกระทำการร้ายต่างๆ แม้กระทั่งวันที่โร้กกลับใจเข้าสู่ฝ่ายเอ็กเมนส์ แต่มิสทิคก็ยังยึดมั่นในความคิดของเธอ เธอเชื่อว่าในที่สุด สงครามระหว่างมนุษย์และมิวแทนต์จะเกิดขึ้น และเธอเลือกข้างที่เธอจะอยู่แล้ว



คลิปเปิดตัว มิสทีก ใน เฟิสคลาส



7.แองเจิล รับบทโดย โซอี้ เครวิตซ์



พลัง/ความสามารถ
บินได้ด้วยปีกแมลงบนหลัง
ปีกแมลงนั้นสามารถกระพือปีกด้วยความเร็วสูงจนเกิดคลื่นอัลตร้าโซนิคได้
สามารถสร้างและคายกรดความเข้มข้นสูงออกจากปากเพื่อใช้ละลายสิ่งต่างๆได้
ประวัติโดยสังเขบ
เด็กผู้หญิงอายุ 14 ปีที่หนีออกจากบ้านเนื่องจากถูกล่วงละเมิดจากพ่อบุญธรรมของเธอ เธอหนีเข้าไปในป่าและเผลอหลับไป พลังมนุษย์กลายพันธ์ของเธอได้ตื่นขึ้นร่างของเธอกลายเป็นดักแด้
และเมื่อเธอตื่นออกมาจากดักแด้เธอค้นพบว่าตัวเองมีปีกที่คล้ายกลับปีกของแมลงงอกขึ้นที่กลางหลัง  หลังจากนั้นเธอได้เจอกับกลุ่ม U-men กลุ่นคนที่ตามล่ามนุษย์กลายพันธ์เพื่อเอาส่วนร่างกายที่กลายพันธ์ มาปลูกติดตามร่างกาย(มนุษย์นี้แย่เนอะ)แองเจลได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิตจากอูเมนโดยวูฟเวอรีน เขาพาเธอกลับมายังสถาบันซาเวียร์ และเข้าเป็นนักเรียนในสถาบัน หลังจากการปะทะกับองครักษ์แห่งอณาจักรไชอา แอลเจิ้ลได้ถูกส่งเข้าร่วมชั้นเรียนพิเศษที่สอนโดย Xorn ผู้มีพลังในการรักษาเธอเป็นนักเรียนในระดับชั้นเดียวกับ แฝด Stepford Cuckcoo และ Beak มิวแทนที่มีลักษณะคล้ายกิ้งก่า เธอได้คบกับ Beak ในฐานะแฟน  จนกระทั่งระหว่างการไปทัศนาจรคณะของพวกเธอติดอยู่ในป่า และได้ปะทะกับกลุ่ม U men อีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเธอได้รับการช่วยเหลือจาก xorn ทำให้จัดการพวก U men ลงไปได้การที่เธอพบรักกับ Beak ทำให้เธอตั้งครรภ์ เธอได้วางไข่ลูก ๆ ของเธอ เธอพยายามฆ่าเอมม่า ฟอร์ส เพราะคิดว่าเอมม่าจะทำลายไข่ของเธอก่อนที่มันจะฟักตัว แต่ความจริงเปิดเผยว่าแองเจลถูกควบคุมจิตโดย esme  หนึ่งในพี่น้อง stepford ที่เสียสติ




8.เอ็มม่า ฟรอสต์ (แจนยูอารี่ โจนส์)


พลัง/อาวุธ
เทเลพาที  กลายร่างเป็นเพชรได้(แต่ขณะร่างเพชร จะไม่สามารถใช้เทเลพาทีได้)
ประวัติโดยสังเขป
หญิงสาวที่มีแทบทุกอย่างที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ทายาทมหาเศรษฐี ความฉลาดหลักแหลม ใบหน้า รูปร่างที่งดงาม แต่มีเพียงอย่างเดียวที่หลอกหลอนเธอ “เธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์” เมื่อเธอยังเด็กเธอได้รับมรดกและกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่มีทรัพย์สินเป็นพันล้านเหรียญ หุ้นในอุตสาหกรรมขนส่งและอิเล็กทรอนิกส์ เธอได้ใช้ความฉลาดหลักแหลมของเธอ บวกกับความสามารถในการอ่านจิตใจคนอื่น ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ทรงอิทธิพลของบอสตันด้วยความสามารถของเธอนั้น เธอจึงถูกได้รับเชิญให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของชมรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกอย่าง Hellfire Club ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกที่ทรงอิทธิพลในหลายๆด้าน ที่คอยอยู่เบื้องหลังเรื่องใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง การทหารเอมม่าไม่หยุดเพียงแค่การเป็นสมาชิกเธอใช้ความสามารถของเธอไต่เต้าจนกลายเป็นผู้นำของชมรมและได้การขนานนามว่าราชินีขาว (White Queen) นอกจากนี้เธอยังเป็นกรรมการบริหารของสถาบัน เมสสาชูเสท อะคาเดมีที่ให้การศึกษากับเด็กระดับมัธยม เธอเริ่มใช้อำนาจและเงินตราของเธอ รวบรวมเด็กมนุษย์กลายพันธ์เข้าสู่โรงเรียนของเธอและฝึกให้พวกเขากลายเป็น Hellions ที่คอยทำงานสกปรกให้แก่เธอกลุ่มเฮลเลี่ยนของเธอปะทะกับ เหล่า x men หลายครั้ง (นี้มันนักเรียนยกพวกตีกันนิ) จนกระทั่งการปะทะกันครั้งรุนแรงที่สุด เฮลเลี่ยนเสียชีวิตเกือบทั้งหมด รวมทั้งตัวเอมม่าเองแทบเสียชีวิตเธอถูกนำกลับมายังแมนชั่นของซาเวียร์ ได้รับการรักษาและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่กระนั้นการที่เธอเป็นผู้นำมาโดยตลอดเธอจึงตัดสินใจตั้งทีมของเธอเองขึ้นมาคือ Generation X แต่ทีมของเธอก็ถูกล้างบางโดยกองทัพเซนติเนล เธอกลับเข้ารวมเอ็กเมนอีกครั้ง ปัจจุบันเธออยู่กินกับไซคลอปและปกครองกลุ่มมิวแทนต์อยู่ที่ Utopia 







9.ดร. มอยร่า แม็คแท็กเคิร์ท (โรส ไบร์น)



พลัง/ความสามารถ
นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ
ประวัติโดยสังเขป
หญิงสาวที่เติบโตมาในตระกูลที่สูงศักดิ์ของสกอตแลนด์ เธอมีความรู้ด้านชีววิทยาเป็นเลิศ คุณสมบัติที่เพียบพร้อมของเธอ ทำให้เธอเป็นที่หมายปองของชายหลายคน
เธอตัดสินใจสมรสกับนายทหารแห่งราชนาวีอังกฤษผู้มีความทะเยอทะยานด้านการเมือง ซึ่งในที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จบลงด้วยการหย่าร้าง เธอได้พบกับชาร์ล ซาเวียร์ ครั้งแรกขณะที่เขากำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่อ๊อกฟอร์ด ทั้งคู่ตกหลุมรักกันในทันที และได้ตกลงหมั้นกันหลังจากที่เธอหย่าจากสามีเก่าของเธอหลังจากนั้นไม่นานชาร์ลถูกเกณฑ์เข้าไปเป็นทหาร เธอกลับส่งจดหมายหาชาร์ลว่าขอถอนหมั้นและเธอจะกลับไปหาสามีเก่าเธอกลับไปคืนดีกับสามีเก่า แต่เธอพบว่าสามีของเธอเป็นคนที่โหดร้ายทารุณ เธอถูกตบตี และทำร้ายอยู่ตลอด จนกระทั่งฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลงเมื่อ ทั้งคู่ไปยังอเมริกา สามีเก่าทำร้ายเธอจนต้องเข้าโรงพยาบาลและทิ้งเธอไปขณะที่เธอตั้งครรภ์ เธอตัดสินใจแยกทางจากสามีเธออีกครั้ง แต่ไม่ได้หย่า และเธอปิดบังเรื่องที่เธอตั้งครรภ์ต่อสามีเธอเป็นเวลาต่อมายี่สิบกว่าปี ระหว่างนั้นเธอก้าวหน้าในอาชีพการงานโดยได้รับรางวัลโนเบลแล้วก่อตั้งสถาบันที่ทำการทดลองเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของมนุษย์ และเธอได้พบกับซาเวียร์อีกครั้ง ทั้งคู่กลับมาเป็นเพื่อนกันและเธอเป็นหนึ่งในผู้ที่ช่วยให้ซาเวียร์ก่อตั้งสถาบันของเขาได้




10.อาซาเซล รับบทโดย เจสัน เฟลมมิ่ง

พลัง/อาวุธ
ด้วยกลไกร่างการที่ผิดธรรมชาติ ทำให้เขาแก่ช้ามาก อีกทั้งเซลล์ของเขามีคุณสมบัติรักษาตัวเองจากอาการบาดเจ็บ(เช่นเดียวกับวูฟเวอรีน) เทเลพอร์ท ข้ามมิติ คลื่นหยุดการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด ทักษะการใช้ดาบขั้นสูง 
ประวัติโดยสังเขป
อาซาเซล อ้างว่าตนเองเป็นมิวแทนต์ที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก (แต่อะโพคาลิปมาแย่งตำแหน่งแก่สุดไป   อย่างน่าแย่งกันเลยตำแหน่งแก่สุดเนี้ย 555) หนึ่งในสมาชิกกลุ่มมิวแทนต์ที่มีลักษณะภายนอกน่ากลัวคล้ายปีศาจที่ชื่อว่า Neyaphemนอกจากจะอ้างว่าแก่สุดแล้ว พี่แกยังอ้างว่าพี่แกเคยเดี่ยวๆกับ Mephisto เจ้าแห่งนรกมาแล้วด้วย กลุ่มของเขาเป็นปรปักษ์กับพวกมิวแทนต์ที่มีลักษณะด้านสว่าง อย่างเช่นอาร์คแองเจิ้ลการข้ามมิติของเขามีเงื่อนไขในการกลับมายังมิติเดิมคือเขาต้องมีบุตรอยู่ในมิตินั้นเพื่อเชื่อมโยงตัวเขาให้กลับมาได้ สิ่งนี้ทำให้เขาใช้มันเพื่อให้การมาของเขาเป็นเช่นการจุติของซาตานอาซาเซลได้เจอกับมิสติคในเยอรมัน ขณะที่เธอยังสมรสกับบารอน คริสเตียน แวกเนอร์ แต่เธอไม่สามรถให้กำเนิดบุตรให้แก่คริสเตียนได้ ครินเตียนและอาซาเซลเป็นคู่ธุรกิจกันซึ่งทำให้เธอได้เจอกับเขา และตกหลุมรักอาซาเซลเธอรู้ว่าการที่เธอแต่งงานกับแวกเนอร์นั้น เพียงเพราะแวกเนอร์ต้องการทายาทสืบสกุล เธอแอบคบกับอาซาเซลอย่างลับๆ และได้ตั้งท้องไนท์คอว์เลอร์   ไม่นานคริสเตียนเริ่มสงสัยว่าเรเว่นจะมีชู้เธอจึงลงมือสังหารคริสเตียน ส่วนอาซาเซลนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งปรากฏว่าอาซาเซลมีเรื่องที่ต้องจัดการกับกลุ่ม Cheyarafim เรเว่นให้กำเนิดบุตร และถูกไล่ล่า(เนื้อหาอยู่ในประวัติของ Mystique)  อาซาเซลนึกว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว  หลังจากนั้นเขาจึงมีบุตรกับหญิงอื่นอีกหลายคนเพื่อที่จะใช้พวกเขาเหล่านั้นเป็นประตูมิติ สาวกของอาซาเซลอาศัยอยู่บนเกาะ the Isla Des Demonas







11 เซบาร์สเตียน ชอว์ Sebastian Shaw
*ตัวร้ายของภาค First Class ครับ

พลัง/อาวุธ
ความสามารถในการดูดซึมพลังงานและแรงกระแทก ให้กลายเป็นควาแข็งแกร่ง ความอึด และความเร็วของร่างกาย
ประวัติโดยสังเขป
เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนแต่ด้วยความสามารถในการทำธุรกิจของเขาทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีได้ตั้งแต่อายุ 20 เขาสร้าง Shaw Industries ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่ทรงอำนาจได้สัญญาและสัปทานหลายอย่างจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ด้วยเงินตราและอำนาจของเขาทำให้เขาถูกเชิญให้ร่วมเข้าเป็นสมาชิก Hellfire Club แต่ความทะเยอทะยานของเขามีไม่สิ้นสุดเขาแสวงหาอำนาจในชมรมโดยการสังหารผู้นำกลุ่ม Inner Circle และก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่ง Black King ควบคุมอำนาจใน Hellfire Club เคียงคู่เอมม่า (White Queen)แต่การที่เขาก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งด้วยการเหยียบร่างของคนตายขึ้นมา ทุกอย่างก็เริ่มกลับมาสู่ตัวเขา โดนัล เพียซ ผู้ครองตำแหน่ง White Bishop หรือแม้แต่ลูกชายของเขา Shinobi Shaw ก็พยายามสังหารเขาเพื่อที่จะมาเป็น Black King แทนที่เขาในที่สุดเขาติดสินใจหนีไปและปล่อยให้ตำแหน่งของเขาตกไปยัง ซิลีน (Black Queen) หลังจากพ้นจากตำแหน่ง เซบาสเตียนได้ใช้อำนาจและเงินตราของเขา ควบคุมโลกธุรกิจอยู่หลังฉาก เพื่อที่จะปกครองโลกตามความทะเยอทะยานที่ไม่สิ้นสุดของเขา




ตัวอย่างหนัง


X-Men:First Class Official 1




X-Men:First Class Official 2

1 ความคิดเห็น: